การใช้งานภาพกราฟฟิก
ประเภทของไฟล์รูปภาพ
ไฟล์รูปภาพที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีหลายประเภท แต่ไม่สามารถนำมาใช้กับเว็บเพจได้ทุกประเภท ประเภทของไฟล์รูปภาพที่นิยมมาใช้กับเว็บเพจมี 3 ประเภทคือ
1. ไฟล์ประเภท GIF (Graphics Interchange Format)เป็นไฟล์ภาพที่มีขนาดเล็ก คุณภาพต่ำ เนื่องจากถูกบีบอัดข้อมูลให้มีขนาดเล็ก แสดงสีได้ 256 สี แต่เป็นที่นิยมสำหรับผู้เขียนเว็บเพจเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถทำเป็นภาพเคลื่อนไหว (Animation) และกำหนดให้แสดงภาพแบบโปร่งแสง มองทะลุไปด้านหลังได้ ไฟล์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็น รูปวาด ภาพการ์ตูน รูป icon, emotion, ป้ายโฆษณาแบนเนอร์ และภาพที่ไม่ต้องการความละเอียดมากนัก
ตัวอย่าง
รูป emotion ต่างๆ
สามารถทำภาพแบบโปร่งแสงได้ เมื่อนำไปวางบนพื้นหลังสีอะไร ด้านหลังรูปจะเป็นสีตามพื้นหลัง
2. ไฟล์ประเภท JPEG หรือ JPG (Joint Photographics Expert Group)เป็นไฟล์รูปภาพที่มีการบีบอัดข้อมูลน้อยกว่าไฟล์ประเภท GIF สามารถแสดงสีได้ 16.7 ล้านสี ภาพที่ได้จะมีความคมชัดมาก ไฟล์ประเภทนี้เหมาะกับภาพที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลหรือ ภาพที่ได้จากการสแกน ภาพที่แสดงการไล่เฉดสี เป็นต้น
ตัวอย่าง
.
3. ไฟล์ประเภท PNG (Portable Network Graphic)เป็นไฟล์ภาพที่นำมาใช้แทนที่ไฟล์ประเภท GIF เนื่องจากสามารถแสดงภาพได้เร็วกว่า แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายมากนักเนื่องจากไม่สามารถทำเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ และมีข้อเสียที่ไม่สามารถใช้กับเว็บเบราเซอร์รุ่นเก่าได้
PNG-8 เป็นรูป แบบที่ใช้สีได้เพียง 256 สี และมีคุณสมบัตคล้ายกับไฟล์ GIF จึงเหมาะสำหรับใช้ทำภาพที่มีสีเรียบๆ เช่น ภาพโลโก้, การ์ตูน สามารถกำหนดพื้นหลังให้โปร่งแสงได้
PNG-24 เป็นรูป แบบที่ใช้สีได้ 16.7 ล้านสี เช่นเดียวกับไฟล์ JPG เหมาะสำหรับภาพถ่าย
ตัวอย่าง
เว็บไซต์ถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร
joy / 16 March, 2009 / Posted in ..การสร้างเว็บไซต์
อ่านเรื่องก่อนหน้านี้ « ศัพท์เบื้องต้นเกี่ยวกับ website ที่ควรรู้อ่านเรื่องถัดไป ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ »
เว็บไซต์เกิดจากเว็บเพจที่เกี่ยวข้องกันหลายๆ หน้า มาเชื่อมโยงกัน ในการสร้างเว็บไซต์จึงต้องสร้างหน้าเว็บเพจที่ประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ ลิงค์ จำนวนหลายหน้า และเว็บเพจแต่ละหน้าถูกสร้างขึ้นด้วยการเขียนคำสั่ง HTML
.
HTML (Hypertext Markup Language)
เป็นภาษาที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการสร้างเว็บเพจ
การสร้าง Web page โดยใช้ภาษา HTML สามารถทำโดยใช้โปรแกรม Text Editor ต่างๆ เช่น Notepad, EditPlus หรือจะอาศัยโปรแกรมที่เป็นเครื่องมือช่วยสร้างเว็บเพจ เช่น Microsoft FrontPage, Adobe Dreamweaver ซึ่งอํานวยความสะดวกในการสร้างหน้า HTML ในลักษณะ WYSIWYG (What You See Is What You Get) การเรียกใช้งานหรือทดสอบการทำงานของเอกสาร HTML จะใช้โปรแกรม Internet Web Browser เช่น Internet Explorer (IE), Mozilla Firefox, Safari, Opera, และ Netscape Navigator เป็นต้น
.
เรามาลองสร้างเว็บเพจง่ายๆ ดูกันค่ะ
1. เปิดโปรแกรม Notepad (คลิกที่ Start>Programs>Accesories>Notepad)
2. แล้ว copy code HTML ด้านล่าง paste ลงไปใน Notepad
.
3. บันทึกไฟล์นี้ คลิกที่เมนู File > Save as … ตั้งชื่อไฟล์นี้ว่า webpage.html ไว้บน Desktop
.
4. จากนั้นไปที่ Desktop จะมีไฟล์ webpage.html ให้ Double Click เพื่อเปิดไฟล์นั้นขึ้นมา
แค่นี้เราก็ได้หน้าเว็บเพจแรกมาเชยชมกันแล้วค่ะ
.
แล้วทำอย่างไร ให้คนอื่นก็เห็นเว็บเพจเราได้ ?
เราต้องนำไฟล์เว็บเพจ (.html) ที่ได้สร้างเมื่อสักครู่ ไปไว้ในเครื่อง Web Server ซึ่งมีทั้งแบบให้บริการฟรี และแบบเสียเงิน
1. ใช้บริการฟรี Web hosting ที่ให้พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของเราฟรี
ผู้ที่ให้บริการฟรีเว็บไซต์ เช่นhttp://www.orgfree.comhttp://www.topcities.comhttp://www.tripod.lycos.comhttp://www.brinkster.com/FreePkgLanding.aspx
สำหรับ Yahoo (http://geocities.yahoo.com/reg) น่าเสียดายที่เมื่อเดือนเมษายน 2009 ประกาศปิดให้บริการฟรี Web hosting GeoCities ไปแล้ว
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้บริการฟรี Web hosting ของ Yahoohttp://www.geocities.com/Pentagon/2932/index.html(เป็นเว็บไซต์ที่สร้างทิ้งไว้ตั้งแต่ปี 1998 เลยทีเดียวค่ะ)
ข้อดี คือ ฟรี แต่ข้อเสียคือ ชื่อเว็บไซต์ที่ได้อาจไม่ถูกใจนัก แต่ถ้าเอาไว้สำหรับหัดทำเว็บไซต์ ก็ไม่เลวนักค่ะ นอกจากนี้อาจจะมีโฆษณาของผู้ให้บริการติดมาด้วย ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเพจอาจจะช้า และถ้าผู้ให้บริการไม่มั่นคง ปิดกิจการไปเว็บเราก็จะหายไปได้ค่ะ
.2. เช่า Web hosting และจด Domain name เอง
Web hosting คือ การให้บริการเช่าพื้นที่ หรือ รับฝากข้อมูลของเว็บไซต์เรา บนเครื่อง Web server ของผู้ให้บริการ
Domain name ก็คือชื่อเว็บไซต์ของเรา
(สำหรับเรื่องการเช่า Web hosting และการจด Domain name จะได้พูดถึงในหัวข้อต่อๆ ไป)
ข้อดี คือ เราสามารถตั้งชื่อเว็บไซต์ของเราเองได้ เช่น enjoyday.net, sanook.com ได้ email account เป็นชื่อเว็บของเรา เช่น admin@enjoyday.net
เมื่อยอมเสียเงิน อะไรๆ ก็จะสะดวกสบายขึ้น เช่น มีเครื่องมือจัดการเว็บไซต์มาให้เราด้วย
ถ้าคุณอยากทำเว็บไซต์สำหรับทำธุรกิจออนไลน์ ควรยอมเสียเงินเช่า Web hosting และจด Domain name เพื่อความน่าเชื่อถือค่ะ
เมื่อมี Web hosting แล้ว เราก็ upload ข้อมูลเว็บเพจที่เราสร้าง จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไปยังเครื่อง Web Server
.
วิธีการ upload ไฟล์ข้อมูลไปเครื่อง Web Server
ถ้าเราใช้บริการ Free Web hosting ทางผู้ให้บริการอาจจะมีหน้า File management ให้เราเลือก browse file จากเครื่องคอมเรา (คล้ายการแนบไฟล์เวลาส่งอีเมล์ หรือ ในเว็บบรอดต่างๆ) หรือยอมให้เราใช้โปรแกรม FTP ในการ upload file ซึ่งจะสะดวกมากกว่า
ส่วนถ้าเช่า Web hosting เสียเงิน สามารถใช้โปรแกรม FTP ได้แน่นอนค่ะ
ตัวอย่างการใช้งานโปรแกรม FTP “FileZilla” เพื่อ upload ไฟล์จากในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ไปยังเครื่อง Web Server
ด้านซ้ายเป็นไฟล์ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ส่วนด้านขวาเป็นไฟล์บนเครื่อง Web Server ซึ่งสามารถเรียกดูบนอินเตอร์เน็ตได้ค่ะ
เมื่อ upload ไฟล์เว็บเพจของเราเสร็จเรียบร้อย เท่านี้เราก็เรียกดูเว็บไซต์ของเราผ่านโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ เช่น IE หรือ Firefox ได้แล้วค่ะ โดยพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ (domain name) ที่เราได้จดทะเบียนเอาไว้ ตามด้วย path ของชื่อไฟล์ ที่เก็บอยู่บน Web Server เช่น http://www.test.com/webtutorial/index.html เป็นต้น
สำหรับบทนี้แค่อยากให้รู้กระบวนการในการสร้างเว็บไซต์ (อย่างย่อ) รายละเอียดต้องศึกษากันต่อไปค่ะ
ประเภทของไฟล์รูปภาพ
ไฟล์รูปภาพที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีหลายประเภท แต่ไม่สามารถนำมาใช้กับเว็บเพจได้ทุกประเภท ประเภทของไฟล์รูปภาพที่นิยมมาใช้กับเว็บเพจมี 3 ประเภทคือ
1. ไฟล์ประเภท GIF (Graphics Interchange Format)เป็นไฟล์ภาพที่มีขนาดเล็ก คุณภาพต่ำ เนื่องจากถูกบีบอัดข้อมูลให้มีขนาดเล็ก แสดงสีได้ 256 สี แต่เป็นที่นิยมสำหรับผู้เขียนเว็บเพจเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถทำเป็นภาพเคลื่อนไหว (Animation) และกำหนดให้แสดงภาพแบบโปร่งแสง มองทะลุไปด้านหลังได้ ไฟล์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็น รูปวาด ภาพการ์ตูน รูป icon, emotion, ป้ายโฆษณาแบนเนอร์ และภาพที่ไม่ต้องการความละเอียดมากนัก
ตัวอย่าง
รูป emotion ต่างๆ
สามารถทำภาพแบบโปร่งแสงได้ เมื่อนำไปวางบนพื้นหลังสีอะไร ด้านหลังรูปจะเป็นสีตามพื้นหลัง
2. ไฟล์ประเภท JPEG หรือ JPG (Joint Photographics Expert Group)เป็นไฟล์รูปภาพที่มีการบีบอัดข้อมูลน้อยกว่าไฟล์ประเภท GIF สามารถแสดงสีได้ 16.7 ล้านสี ภาพที่ได้จะมีความคมชัดมาก ไฟล์ประเภทนี้เหมาะกับภาพที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลหรือ ภาพที่ได้จากการสแกน ภาพที่แสดงการไล่เฉดสี เป็นต้น
ตัวอย่าง
.
3. ไฟล์ประเภท PNG (Portable Network Graphic)เป็นไฟล์ภาพที่นำมาใช้แทนที่ไฟล์ประเภท GIF เนื่องจากสามารถแสดงภาพได้เร็วกว่า แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายมากนักเนื่องจากไม่สามารถทำเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ และมีข้อเสียที่ไม่สามารถใช้กับเว็บเบราเซอร์รุ่นเก่าได้
PNG-8 เป็นรูป แบบที่ใช้สีได้เพียง 256 สี และมีคุณสมบัตคล้ายกับไฟล์ GIF จึงเหมาะสำหรับใช้ทำภาพที่มีสีเรียบๆ เช่น ภาพโลโก้, การ์ตูน สามารถกำหนดพื้นหลังให้โปร่งแสงได้
PNG-24 เป็นรูป แบบที่ใช้สีได้ 16.7 ล้านสี เช่นเดียวกับไฟล์ JPG เหมาะสำหรับภาพถ่าย
ตัวอย่าง
เว็บไซต์ถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร
joy / 16 March, 2009 / Posted in ..การสร้างเว็บไซต์
อ่านเรื่องก่อนหน้านี้ « ศัพท์เบื้องต้นเกี่ยวกับ website ที่ควรรู้อ่านเรื่องถัดไป ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ »
เว็บไซต์เกิดจากเว็บเพจที่เกี่ยวข้องกันหลายๆ หน้า มาเชื่อมโยงกัน ในการสร้างเว็บไซต์จึงต้องสร้างหน้าเว็บเพจที่ประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ ลิงค์ จำนวนหลายหน้า และเว็บเพจแต่ละหน้าถูกสร้างขึ้นด้วยการเขียนคำสั่ง HTML
.
HTML (Hypertext Markup Language)
เป็นภาษาที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการสร้างเว็บเพจ
การสร้าง Web page โดยใช้ภาษา HTML สามารถทำโดยใช้โปรแกรม Text Editor ต่างๆ เช่น Notepad, EditPlus หรือจะอาศัยโปรแกรมที่เป็นเครื่องมือช่วยสร้างเว็บเพจ เช่น Microsoft FrontPage, Adobe Dreamweaver ซึ่งอํานวยความสะดวกในการสร้างหน้า HTML ในลักษณะ WYSIWYG (What You See Is What You Get) การเรียกใช้งานหรือทดสอบการทำงานของเอกสาร HTML จะใช้โปรแกรม Internet Web Browser เช่น Internet Explorer (IE), Mozilla Firefox, Safari, Opera, และ Netscape Navigator เป็นต้น
.
เรามาลองสร้างเว็บเพจง่ายๆ ดูกันค่ะ
1. เปิดโปรแกรม Notepad (คลิกที่ Start>Programs>Accesories>Notepad)
2. แล้ว copy code HTML ด้านล่าง paste ลงไปใน Notepad
My website
นี่เป็นการเขียนเว็บเพจครั้งแรกของฉัน
.
3. บันทึกไฟล์นี้ คลิกที่เมนู File > Save as … ตั้งชื่อไฟล์นี้ว่า webpage.html ไว้บน Desktop
.
4. จากนั้นไปที่ Desktop จะมีไฟล์ webpage.html ให้ Double Click เพื่อเปิดไฟล์นั้นขึ้นมา
แค่นี้เราก็ได้หน้าเว็บเพจแรกมาเชยชมกันแล้วค่ะ
.
แล้วทำอย่างไร ให้คนอื่นก็เห็นเว็บเพจเราได้ ?
เราต้องนำไฟล์เว็บเพจ (.html) ที่ได้สร้างเมื่อสักครู่ ไปไว้ในเครื่อง Web Server ซึ่งมีทั้งแบบให้บริการฟรี และแบบเสียเงิน
1. ใช้บริการฟรี Web hosting ที่ให้พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของเราฟรี
ผู้ที่ให้บริการฟรีเว็บไซต์ เช่นhttp://www.orgfree.comhttp://www.topcities.comhttp://www.tripod.lycos.comhttp://www.brinkster.com/FreePkgLanding.aspx
สำหรับ Yahoo (http://geocities.yahoo.com/reg) น่าเสียดายที่เมื่อเดือนเมษายน 2009 ประกาศปิดให้บริการฟรี Web hosting GeoCities ไปแล้ว
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้บริการฟรี Web hosting ของ Yahoohttp://www.geocities.com/Pentagon/2932/index.html(เป็นเว็บไซต์ที่สร้างทิ้งไว้ตั้งแต่ปี 1998 เลยทีเดียวค่ะ)
ข้อดี คือ ฟรี แต่ข้อเสียคือ ชื่อเว็บไซต์ที่ได้อาจไม่ถูกใจนัก แต่ถ้าเอาไว้สำหรับหัดทำเว็บไซต์ ก็ไม่เลวนักค่ะ นอกจากนี้อาจจะมีโฆษณาของผู้ให้บริการติดมาด้วย ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเพจอาจจะช้า และถ้าผู้ให้บริการไม่มั่นคง ปิดกิจการไปเว็บเราก็จะหายไปได้ค่ะ
.2. เช่า Web hosting และจด Domain name เอง
Web hosting คือ การให้บริการเช่าพื้นที่ หรือ รับฝากข้อมูลของเว็บไซต์เรา บนเครื่อง Web server ของผู้ให้บริการ
Domain name ก็คือชื่อเว็บไซต์ของเรา
(สำหรับเรื่องการเช่า Web hosting และการจด Domain name จะได้พูดถึงในหัวข้อต่อๆ ไป)
ข้อดี คือ เราสามารถตั้งชื่อเว็บไซต์ของเราเองได้ เช่น enjoyday.net, sanook.com ได้ email account เป็นชื่อเว็บของเรา เช่น admin@enjoyday.net
เมื่อยอมเสียเงิน อะไรๆ ก็จะสะดวกสบายขึ้น เช่น มีเครื่องมือจัดการเว็บไซต์มาให้เราด้วย
ถ้าคุณอยากทำเว็บไซต์สำหรับทำธุรกิจออนไลน์ ควรยอมเสียเงินเช่า Web hosting และจด Domain name เพื่อความน่าเชื่อถือค่ะ
เมื่อมี Web hosting แล้ว เราก็ upload ข้อมูลเว็บเพจที่เราสร้าง จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไปยังเครื่อง Web Server
.
วิธีการ upload ไฟล์ข้อมูลไปเครื่อง Web Server
ถ้าเราใช้บริการ Free Web hosting ทางผู้ให้บริการอาจจะมีหน้า File management ให้เราเลือก browse file จากเครื่องคอมเรา (คล้ายการแนบไฟล์เวลาส่งอีเมล์ หรือ ในเว็บบรอดต่างๆ) หรือยอมให้เราใช้โปรแกรม FTP ในการ upload file ซึ่งจะสะดวกมากกว่า
ส่วนถ้าเช่า Web hosting เสียเงิน สามารถใช้โปรแกรม FTP ได้แน่นอนค่ะ
ตัวอย่างการใช้งานโปรแกรม FTP “FileZilla” เพื่อ upload ไฟล์จากในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ไปยังเครื่อง Web Server
ด้านซ้ายเป็นไฟล์ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ส่วนด้านขวาเป็นไฟล์บนเครื่อง Web Server ซึ่งสามารถเรียกดูบนอินเตอร์เน็ตได้ค่ะ
เมื่อ upload ไฟล์เว็บเพจของเราเสร็จเรียบร้อย เท่านี้เราก็เรียกดูเว็บไซต์ของเราผ่านโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ เช่น IE หรือ Firefox ได้แล้วค่ะ โดยพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ (domain name) ที่เราได้จดทะเบียนเอาไว้ ตามด้วย path ของชื่อไฟล์ ที่เก็บอยู่บน Web Server เช่น http://www.test.com/webtutorial/index.html เป็นต้น
สำหรับบทนี้แค่อยากให้รู้กระบวนการในการสร้างเว็บไซต์ (อย่างย่อ) รายละเอียดต้องศึกษากันต่อไปค่ะ




















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น